วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คณะครูอาจารย์

1. ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ
2.หัวหน้าตึกเรียน
3.กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
4.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
5.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
6.กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
7.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
8.กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่ 2
9.กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
10.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
11.กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
12.กลุ่มสาระการเรียนรู้หน่วยงานอื่นๆ

ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการ


ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา


 นายวิศรุต สนธิชัย 


คณะรองผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษ












สถานที่ตั้ง/แผนที่โรงเรียน

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
เลขที่ 227 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330





แผนที่แสดงที่ตั้งและการคมนาคม
สถานที่ตั้ง   เลขที่ 227 ถนนพญาไท แขวงปทุมวันเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
สถานที่ใกล้เคียง  คณะสัตวแพทย์ศาสตร์, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 
                          จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสถาบันราชมคล วิทยาเขตอุเทนถวาย​
สายรถเมล์ที่ผ่าน  ถนนพญาไท :21,25,29,34,40,47,50,93,113,ปอ.1,ปอ.29,ปอ.34,ปอ.93,ปอ.113
                          ถนนอังรีดูนังค์  : 16,21,45
หมายเลขโทรศัพท์  โทรศัพท์ : 0-2252-7302-3, 0-2252-7308,0-2254-0287-8
โทรสาร : 0-2251-1889, 0-2252-7002, 0-2253-9865
Website    http://plan.triamudom.ac.th/                 
                 http://www.triamudom.ac.th/


แผนผังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา


วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555



ประวัติการก่อตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
            โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ตั้งขึ้นตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ปี พ.. 2479  ซึ่งกำหนดการศึกษาระดับสามัญศึกษาไว้ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  แต่ผู้ที่เข้าศึกษาชั้นอุดมศึกษา  (มหาวิทยาลัย)  จะต้องเรียนชั้นเตรียมอุดมศึกษาก่อน ปี  ถึงแม้กระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการ)  ในสมัยนั้นจะจัดการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7 - 8   แต่ก็สิ้นสุดลงในปี  พ.. 2481  ซึ่งทำให้มหาวิทยาลัยจะรับนักศึกษาได้เพียงปี พ.. 2482  ดังนั้นเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลการเตรียมนักเรียนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย จึงควรเป็นการดำเนินการของมหาวิทยาลัยเองด้วยเหตุดังกล่าวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้พิจารณาดำเนินการโดยสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มีมติให้จัดตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้น  เมื่อวันที่ 3  มกราคม  พ.. 2480  โดยมี  ฯพณฯ ศ...ปิ่น  มาลากุล  เป็นผู้อำนวยการคนแรก   ใช้สถานที่ของโรงเรียนมัธยมหอวัง  ถนนพญาไท  แต่ให้ขยายไปจรดถนนสนามม้า  (อังรีดูนังต์โรงเรียนเริ่มรับนักเรียนรุ่นแรกเมื่อวันที่ 6  พฤษภาคม  2481 และเปิดเรียนวันแรก  เมื่อ วันที่  19  พฤษภาคม  2481  มาจนถึงปัจจุบัน (.. 2555) เป็นเวลา  74 ปี  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นโรงเรียนสหศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย  กระแสสังคมในขณะนั้นยังไม่ยอมรับการเรียนร่วมกันของนักเรียนชาย-หญิง  จึงต้องมีวิธีดำเนินการและอาศัยความเสียสละของครู-อาจารย์  เป็นอย่างมาก  จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีความเจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับจนถึงปี  พ.. 2484  เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2  ทำให้       ต้องอพยพโรงเรียนมาเปิดสอนที่ชานเมือง  เช่น  จังหวัดสมุทรปราการ  ธนบุรี  และนนทบุรี  รวมทั้งฝากเรียนตามที่ต่างๆ  เมื่อกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายให้เปิดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 7-8 ตามคำเรียกร้องของประชาชน จึงได้มีการเปิดชั้นเตรียมอุดมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลถึง13 โรง และโรงเรียนราษฏร์  25 โรง  ในปี พ.. 2489  นับเป็นรุ่นแรกหลังสงคราม  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีส่วนช่วยในการจัดตั้งอย่างมาก
            โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ได้ถูกมรสุมสงครามอย่างหนัก  อาทิ โรงเรียนถูกทหารญี่ปุ่นยึดพอสงครามสงบก็ถูกทหารฝ่ายอังกฤษยึดต่อ  กว่านักเรียนจะกลับเข้าเรียนได้ตามปกติ ประมาณเดือน  ตุลาคม  พ..  2489 
            วันที่ กรกฎาคม พ.. 2490 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้โอนมาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการตัดคำว่า แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ออก ส่วนสัญลักษณ์ของโรงเรียนคือ พระเกี้ยว” ซึ่งถือเป็นของสูงมีคุณค่าและความหมายยิ่ง  โรงเรียนใช้พระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายรวมจิตใจของคณาจารย์และนักเรียนมาจนถึงทุกวันนี้
            ฯพณฯ ศ...ปิ่น  มาลากุล  ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนนี้ไว้  ดังนี้
            เรื่องนี้กระทบกระเทือนจิตใจอาจารย์โรเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ไม่น้อยกว่าครั้งที่ได้ยินวิทยุกระจายเสียงประกาศว่าจะยุบโรงเรียน  เสียดาย  พระเกี้ยว  ซึ่งเป็นตราของโรงเรียนอยู่เช่นเดียวกับของมหาวิทยาลัย  และเสียดายสร้อยชื่อ  แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”  มีความรู้สึกคล้ายกับความในกลอนบทนี้
                                     
                        “แต่ปางหลังครั้งข้าเป็นทารก                                   พ่อหยิบยกข้าให้ไว้กับแม่
              ให้กำเนิดแล้วหนอพ่อไม่แล                                               ได้เห็นแต่แม่เจ้าทุกเช้าเย็น
                      เจ้าประคุณบุญปลูกของลูกแก้ว                                  แม่ป่วยไข้ไปแล้วเป็นคราวเข็ญ
              พ่อมายืนทะมึนจ้องเหมือนจองเวร                                      จะเคียดเข่นฉุดลากกระชากไป
                      พ่อไม่เคยรักใคร่ไหนจะเลี้ยง                                     เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเยี่ยงแม่ได้
              โอ้อกข้าเตรียมตรมระทมใจ                                              แสนอาลัยมารดาของข้าเอย
                        นี่คือความเป็นมาส่วนหนึ่งในช่วง  10  ปีแรก  ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
            ( ที่มา ประวัติย่อโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาโดย ม..ปิ่น  มาลากุล 2506)

ตั้งแต่ปี พ..  2491 เป็นต้นมาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากโดยเปิดแผนกฝึกหัดครูในปี พ.ศ 2497  และจัดตั้งแผนกมัธยมศึกษารับนักเรียนชั้น ม.1-6 ใช้อักษรย่อ  ..” (ปัจจุบันคือโรงเรียนสาธิต  มศว.ปทุมวัน  สังกัดทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ)
ปี  พ..  2503  ได้มีการเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาใหม่  เรียกชั้นมัธยมศึกษาปีที่ และ  ปีที่  เดิมว่าชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ  แบ่งเป็นชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4-5  แผนกศิลปะ  แผนกวิทยาศาสตร์  และแผนกทั่วไป  มีหลักสูตร  2  ปี
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจึงเป็นชื่อเฉพาะที่มีความหมายเช่นเดิม  เพราะนักเรียนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้  ส่วนมากต้องการศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษา
อนึ่ง  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสามพราน  ได้ตั้งขึ้นในปี  พ..  2501   โดยย้ายมาจากบางปู  (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาบางปู  ตั้งขึ้นในปี  พ..  2500 )  ต่อมาในปีการศึกษา  2507  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสามพรานก็ได้ย้ายเข้ามารวมอยู่กับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ณ กรุงเทพมหานคร  และเมื่อปี  พ..  2501  ได้จัดตั้งโรงเรียนเตรียมพิเศษในบริเวณโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  บริเวณคลองอรชร  เรียกว่า  เตรียมอรชร”  ต่อมายุบรวมกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่โรงเรียนต่าง ๆ ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนราษฎร์  ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคตลอดมา  ตั้งแต่ปี  พ.. 2499  โดยส่งครู  อาจารย์  ในหมวดวิชาต่างๆ  ไปช่วยสอนเพิ่มเติมในวันหยุดราชการให้แก่นักเรียนตามโรงเรียนที่ขอความช่วยเหลือมาเป็นพิเศษอีกด้วย  ทั้งนี้เพื่อให้การเรียนการสอนของโรงเรียนต่างๆ อยู่ในมาตรฐานเดียวกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
            นอกจากภารกิจที่สำคัญดังกล่าวแล้ว  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ยังได้รับมอบหมายจากกรมเจ้าสังกัด  ให้ปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ที่สำคัญและควรกล่าวถึง  เช่น  ในปี พ.. 2499  ได้รับมอบหมายให้ความช่วยเหลือในด้านแนะแนวการศึกษาแก่โรงเรียนรัฐบาล  และโรงเรียนราษฎร์ที่มีชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดให้หัวหน้าหมวดวิชาต่าง ๆ ไปให้คำแนะนำแก่โรงเรียน  ตามที่ได้รับมอบหมายจนบรรลุความสำเร็จตามเป้าประสงค์ของกรม  ทั้งยังได้ส่งครู – อาจารย์  ไปช่วยสอนเพิ่มเติมในวันหยุดราชการให้แก่นักเรียนตามโรงเรียนที่ได้ขอร้องมาเป็นพิเศษด้วย
            ในปี พ.. 2503  ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ  กระทรวงศึกษาธิการจึงได้มีคำสั่งมอบหมายให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่ภาคการศึกษาทั้ง 12 ภาค โรงเรียนจึงได้จัดส่งหัวหน้าหมวดวิชาและผู้ช่วยไปแนะนำการสอนของโรงเรียนต่าง ๆ อยู่ในระดับเดียวกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และยังได้รับหน้าที่อบรมครูของกรมสามัญศึกษา ที่จะไปทำการสอนในโรงเรียนส่วนภูมิภาค  โดยจัดให้เข้ามารับการอบรมอยู่ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจนมีประสบการณ์พอที่จะไปทำการสอนตามแบบของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแล้ว  จึงจะส่งไปดำเนินการสอนใน   โรงเรียนส่วนภูมิภาคนั้น
            นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้รับโครงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการแก่พยาบาลของกองพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข  โดยกระทรวงสาธารณสุขขอให้ทางโรงเรียนช่วยสอนพยาบาลที่จบชั้น   .. 3  หรือ ม.6 เดิม  ซึ่งอาจดำรงตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลหรือเป็นพยาบาลที่รับราชการมานานในโรงพยาบาลของรัฐบาลและเอกชน  ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคซึ่งทางกองพยาบาล  กระทรวงสาธารณสุข  ได้คัดเลือกส่งมาเรียนเพื่อสมัครสอบเทียบชั้น ม.. 5  (มัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ)  ทางโรงเรียนก็ได้จัดหลักสูตรระยะสั้นแบบเร่งรัดเรียน เป็นการช่วยเหลือให้พยาบาลที่สามารถสอบได้ชั้น ม.. 5 แล้ว  ได้เลื่อนวิทยฐานะปรับวุฒิหรือเรียนปริญญาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ฯลฯ  เพื่อเป็นครูพยาบาลต่อไปได้
            โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  นอกจากจะได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่โรงเรียนต่าง ๆ ทั้งโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนราษฎร์  ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคดังกล่าวแล้ว  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายังได้ดำเนินการช่วยเหลือในการก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษา  สายสามัญ โรงเรียน คือ
1.       โรงเรียนบดินทร์เดชา  (สิงห์  สิงหเสนี)  ตั้งอยู่ในท้องที่แขวงวังทองหลาง  ถนนลาดพร้าว
 เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งโรงเรียนเมื่อ  วันที่  30 เมษายน พ.. 2514
2.    โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ  ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ  เขตพระโขนง  กรุงเทพมหานคร  กระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งโรงเรียน  เมื่อ วันที่  21  กุมภาพันธ์  2521 
3.    โรงเรียนบรมราชินีนาถราชวิทยาลัย (เตรียมอุดมศึกษา)  ตั้งอยู่ที่อำเภอปากท่อ  จังหวัดราชบุรี 
กระทรวงศึกษาธิการประการตั้งโรงเรียน  เมื่อวันที่   4  มิถุนายน  พ..  2535
4.     โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปทุมธานี   ตั้งอยู่ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี     กระทรวงศึกษาธิการประการตั้งโรงเรียน  เมื่อวันที่   5  กรกฎาคม  พ..  2535
5.     โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์  ตั้งอยู่ที่เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร กระทรวงศึกษาธิการประการตั้งโรงเรียน  เมื่อวันที่   5  กรกฎาคม  พ..  2535
นอกจากนี้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายังได้  ช่วยดูแลจัดวางระบบให้กับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ในส่วนภูมิภาค  คือ
1. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้   ตั้งอยู่ที่อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช  ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ  ได้ประกาศจัดตั้งโรงเรียนเมื่อวันที่  23  มีนาคม  พ.. 2538
2.    โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ตั้งอยู่ที่อำเภอสว่างดินแดน จังหวัดสกลนคร  ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ  ได้ประกาศจัดตั้งโรงเรียนเมื่อวันที่  1  มิถุนายน พ.. 2542
ปัจจุบันโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจัดการสอนนักเรียน ทั้ง  ระดับชั้น  (.4, .5 , .6)  ตามหลักสูตร ที่ปรับปรุงใหม่  พุทธศักราช  2533

นับตั้งแต่เริ่มตั้งโรงเรียนมาจนถึงปัจจุบัน  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษามีผู้อำนวยการ  12 ท่าน คือ

ฯพณฯ ศาสตราจารย์ ม..ปิ่น  มาลากุล                         ..  2481 – 2487
            นายสนั่น                                  สุมิตร                             ..  2487 – 2497
            นายสงวน                                 เล็กสกุล                         ..  2494 – 2505
            คุณหญิงบุญเลื่อน                    เครือตราชู                      ..  2505 – 2518
            คุณหญิงวสุชาดา                     ถิระวัฒน์                         พ..  2518 – 2522
            คุณหญิงพรรณชื่น                    รื่นศิริ                              ..  2522 – 2532
            คุณหญิงพรรณี                        กาญจนะวสิต                   ..  2532 – 2540
            นายสมพงษ์                            ธรรมอุปกรณ์                   ..  2540 – 2542
            นายอัศวิน                               วรรณวินเวศร์                   ..  2542 – 2544
            นางพรรณี                               เพ็งเนตร                          พ..  2544 – 2548
            นางพิศวาส                             ยุติธรรมดำรง                   พ.ศ.  2548  2551
            นายวิศรุต                                สนธิชัย                            พ.ศ.  2551 – ปัจจุบัน



โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ตั้งอยู่บนเนื้อที่  80 ไร่   ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    มีนักเรียน  3  ระดับ  (.4-5-6)  ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  พุทธศักราช  2551  มีนักเรียนประมาณ  4,500 คน  (105  ห้องเรียน)   อาคารเรียน  9  หลัง  อาคารประกอบ  15  หลัง  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้พัฒนาก้าวไกลในทุกด้าน  จนได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีมาตรฐาน  และคุณภาพดีแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ประวัติโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จักเป็นเป็นประวัติงดงามอันนิรันดร์ ดังคำของ ฯพณฯ ศ.มล.ปิ่น มาลากุล








วิสัยทัศน์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
พ.ศ. 2553-2555
มีคุณธรรมจริยธรรม  เป็นเลิศทางวิชาการ  ระดับมาตรฐานสากล
บนพื้นฐานความเป็นไทย  รักษ์เกียรติและศักดิ์ศรีของตน
มีศักยภาพสร้างสรรค์และเป็นพลโลกที่ดี

นโยบายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ถือเป็น พันธกิจ ปีการศึกษา 2555
1. ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนแก่ผู้เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง
    ตลอดจนใช้ข้อมูลสารสนเทศและงานวิจัยเพื่อการพัฒนา
2. พัฒนาระบบบริหารจัดการของโรงเรียนให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล
3. จัดหลักสูตรและพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอน ให้เหมาะกับศักยภาพของนักเรียน
4. ส่งเสริมกิจกรรมที่ปลูกฝังให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม  คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 
    และค่านิยมอันดีงามบนพื้นฐานความเป็นไทย
5.  ส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
6.พัฒนาศักยภาพด้านวิชาการและจรรยาบรรณของครูและบุคลากรทางการศึกษาและจัดสวัสดิการ
   ตามความเหมาะสม
7. จัดแหล่งการเรียนรู้และสาธารณูปโภคให้เพียงพอ  พัฒนาสิ่งแวดล้อมให้สะอาด สวยงาม 
   ปลอดภัย  มีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้
8.  จัดหาและผลิตสื่อนวัตกรรม และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพัฒนางานทุกระบบ
9.  ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสาธารณะและการพัฒนาสังคมส่วนรวม

เป้าหมาย
1. มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนแก่ผู้เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึง
    สม่ำเสมอ   ตลอดจนใช้ข้อมูลสารสนเทศและงานวิจัยเพื่อการพัฒนา
2. มีระบบบริหารตามมาตรฐานสากล โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ระบบบริหารแบบองค์รวม ระบบบริหาร
    งบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน ระบบงบประมาณแบบระยะปานกลาง  ระบบควบคุมภายใน 
    และระบบประกันคุณภาพการศึกษา   และได้รับรางวัล TQA ภายใน 3 ปี
3.ประสานงานกับคณะกรรมการสถานศึกษา สมาคมผู้ปกครองและครูเตรียมอุดมศึกษา 
    สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์   มูลนิธิเตรียมอุดมศึกษา  
    เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการพัฒนาโรงเรียน

4. มีหลักสูตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายสามัญ แบบสหศึกษา เพื่อมุ่งเตรียมนักเรียน
    เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยคัดเลือกจากนักเรียนทั่วประเทศ และดำเนินงานตามแนวทาง
   ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542   และนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการ
    การศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนสามารถเลือกแผนการเรียนได้ตามความชอบ ความรู้
    และความ สามารถของตน
5.มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องของผู้เรียน ท้องถิ่นและประเทศชาติ
   เหมาะกับศักยภาพของผู้เรียน  ใช้ทฤษฎีความรู้ (theory of knowledge )  การเขียนความเรียง
  ชั้นสูง (Extended Essay)  กระบวนการสร้างสรรค์ (Creativity)  กิจกรรม (Activity)  การรับใช้ส่วน
  รวม(Service)  โลกศึกษา(Global Education)   เป็นองค์ประกอบสำคัญในแผนการสอน 
6.  นักเรียนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ รักการอ่าน รักการเรียนรู้ตลอดชีวิต  มีความรู้เป็นสากล 
    มีสติปัญญา มีศักยภาพสร้างสรรค์  สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม  มีทักษะการสื่อสาร
    ด้วยภาษาไทยและภาษาต่างประเทสอย่างน้อย 1 ภาษา    มีทักษะการทำงานและการบริหาร
    จัดการ   และโรงเรียนเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
7. มีหลักสูตรสำหรับนักเรียนที่มีอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษและ
    ภาษาไทย
8.มีการเตรียมความพร้อมแก่นักเรียนสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ และการแข่งขันใน
    ระดับสากล
9. มีการเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนเพื่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย การสอบแข่งขันชิงทุนศึกษา
    ต่อในต่างประเทศ   และการแข่งขันด้านต่างๆในประเทศ
10. มีการจัดจ้างบุคลากรเจ้าของ เพื่อสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน  ญี่ปุ่น จีน และสเปน   และจัดจ้างบุคลากรอื่นตามความจำเป็น
11. นักเรียนมีคุณสมบัติตามมาตรฐานนักเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ได้แก่ มีคุณธรรมจริยธรรม 
      รักษ์ความเป็นไทย  มีความเป็นเลิศทางวิชาการ  เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีสุขภาพกาย
      สุขภาพจิตดี  มีความสามารถในการสื่อสาร  มีบุคลิกภาพดี  มีความเป็นประชาธิปไตย
12. นักเรียนรักษ์เกียรติและศักดิ์ศรีของตน มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม 
       ประเทศชาติและสังคมโลก   และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ
13.นักเรียนเป็นผู้ดี มีกิริยามารยาทเรียบร้อย รู้จักกาลเทศะ แต่งกายได้เหมาะสมตามโอกาส  
     มีบุคลิกภาพดี  มีความมั่นใจในตนเอง   มีจิตสำนึกความเป็นไทย เข้าใจภูมิปัญญาไทย ทั้งด้าน
     ศิลปะและวัฒนธรรม อาทิ ด้านภาษา  นาฏศิลป์   ดนตรี  ขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นต้น  
     รู้จักประสมประสานความเป็นสากลบนพื้นฐานความเป็นไทย  เป็นพลโลก( World  Citizen) 
     ที่มีคุณค่า
14. บุคลากรและนักเรียนมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง จิตใจร่าเริงแจ่มใส มีสุขภาพจิตที่ดี  ปลอดจาก
      สิ่งเสพติด อบายมุข และโรคเอดส์   มีความเข้าใจและภาคภูมิใจในตนเอง  มีความสุข  โดยการ
      ออกกำลังกาย   เล่นกีฬา เล่นดนตรี นาฎศิลป์  การตรวจสุขภาพ   การใช้มาตรการสุขบัญญัติ
      แห่งชาติ  รวมทั้งการร่วมทำกิจกรรมด้าน ศาสนาและวัฒนธรรม  
15.บุคลากรทุกฝ่ายมีความรู้ และจริยธรรม มีศักยภาพในหน้าที่ของตน  ด้วยการอบรม สัมมนา 
      นิเทศ ศึกษาต่อ  ทัศนศึกษา ดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ   ยกย่องบุคลากรที่ปฏิบัติงานดี 
      มีจรรยาบรรณ  และจัดสวัสดิการให้แก่บุคลากรตามความเหมาะสม  
16. มีอาคาร สถานที่ แหล่งการเรียนรู้  สิ่งแวดล้อม ภูมิทัศน์ สาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก 
      ให้เพียงพอ สะอาด สวยงาม ปลอดภัย  มีบรรยากาศแห่งการเรียนรู้
17. มีสื่อนวัตกรรมและสื่อเทคโนโลยีอย่างเพียงพอ  บุคลากรสามารถผลิต และใช้สื่อนวัตกรรม 
      สื่อเทคโนโลยี ในการเรียนการสอน  ใช้เทคโนโลยีพัฒนางานทุกระบบ   และมีระบบการบำรุง
      รักษา การใช้สื่อนวัตกรรมและสื่อเทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า
18. ให้ทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนตามความเหมาะสม
19.มีเครือข่ายร่วมพัฒนา ช่วยเหลือด้านวิชาการและด้านทุนทรัพย์ แก่โรงเรียนเครือข่าย
      เตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนน้อง และโรงเรียนที่ขอความอนุเคราะห์  และบริจาคเงินเพื่อสาธารณ
      กุศลตามความเหมาะสม  ต้อนรับ ให้ความรู้แก่คณะผู้มาศึกษาดูงาน   และจัดนิทรรศการเพื่อเผย
      แพร่ความรู้แก่สาธารณชนทั่วไป